18 เมษายน 2024

จากกรณีที่ นายยืนยง โอภากุลหรือ “แอ๊ด คาราบาว” ได้ขึ้นเวทีเล่นคอนเสิร์ตงานวันเกิดกำนันคนหนึ่งใน อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี ด้วยอารมณ์อันขาดสติ ก่อนที่ฉะเดือด นายณัฐภัทร สุวรรณประทีป ผู้ว่าฯจังหวัดสุพรรณบุรี คนสิงห์ดำประจำมท.1 จากกรณีที่ไม่ยอมให้ร้องเพลงแสดงดนตรี จนผู้ว่าฯ ได้ออกมาชี้แจง และเตรียมดำเนินคดีกับ “แอ๊ด คาราบาว” พร้อมมอบหมายให้เจ้าหน้าที่นิติกรแจ้งความเอาผิด ข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา แถม“แอ๊ด คาราบาว” เจออีกหนึ่งปัญหานั่นคือ สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดฯเตรียมส่งเรื่องให้ พิจารณาถอดถอน“แอ๊ด คาราบาว” ออกจากการเป็น“ศิลปินแห่งชาติ”

หลังจากนั้นเมื่อวันที่ 15 ต.ค.65 แม้ นายยืนยง โอภากุล”แอ๊ด คาราบาว”เปิดใจผ่านเฟซบุ๊ก “Carabao Official” ด้วยการยอมรับผิดและชี้แจงเรื่องราวทั้งหมดพร้อมระบุข้อความว่า “กระผมนายยืนยง โอภากุล (แอ๊ด คาราบาว) ได้ใช้วาจาลบหลู่ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรีจากบนเวทีต่อหน้าผู้คนนับพัน เมื่อคืนวันที่ 12 ต.ค. 2565 ณ อำเภอสองพี่น้อง จังหวัดสุพรรณบุรี ต่อมาท่านผู้ว่าออกมาอธิบายเรื่องที่เกิดขึ้นว่าเป็นการเข้าใจผิด กระผมได้ฟังคำอธิบายแล้วรู้สึกสำนึกผิด มันเป็นอารมณ์ชั่ววูบของผมที่ขาดสติไป จึงขอกราบขออภัยท่านผู้ว่าฯ และขอบพระคุณที่กรุณาออกมาชี้แจงความจริง ส่วนเรื่องคดีความผมพร้อมอ้าแขนรับความผิดเต็มๆ เลยครับ ขอบพระคุณครับ “

แต่ทันทีที่ “แอ๊ด คาราบาว”โพสต์ข้อความขอโทษผู้ว่าฯสุพรรณแล้วก็ตาม ปรากฎว่า เมื่อวันที่ 16 ต.ค. 65“นายณัฐภัทร สุวรรณประทีป”ผู้ว่าฯสุพรรณบุรีได้มอบหมายให้ นายเดชะ สิทธิสุทธิ์ หัวหน้าสำนักงานจังหวัดสุพรรณบุรี ได้รับมอบอำนาจจากนายณัฐภัทร สุวรรณประทีป ผวจ.สุพรรณบุรี นำนิติกรชำนาญการเดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.เกียรติชัย เกิดโชค ผกก.สภ.สองพี่น้อง และ ร.ต.อ.หญิงอัจฉรี วุฒิวัฒนา พนักงานสอบสวน สภ.สองพี่น้อง เพื่อร้องทุกข์กล่าวโทษโดยไปแจ้งความดำเนินคดี นายยืนยง โอภากุล หรือ“แอ๊ด คาราบาว” ข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา จากการที่ใช้ถ้อยคำดูถูกเหยียดหยามต่อเจ้าพนักงาน ซึ่งในคลิป“แอ๊ด คาราบาว“ได้ตะโกนเรียกผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรีขึ้นมาเคลียร์กันบนเวทีด้วยอารมณ์ฉุนเฉียวว่า

“ขึ้นมาสิผู้ว่าฯ ขึ้นมาเลย อยู่หรือเปล่า มันอยู่หรือเปล่า” พร้อมกับบอกนักดนตรีให้หยุดเล่นดนตรี และพูดต่อ ว่า มึงขึ้นมาเคลียร์กันหน่อยซิ มึงรู้ไหมกูเป็นใคร กูเกิดที่นี่ กูตายที่นี่ แล้วมึงเป็นใคร มึงจะไม่ให้กูมาเล่นจังหวัดสุพรรณบุรี คนกาญจนบุรีเขายังให้กูไปเล่น เมืองกาญจนบุรีเลย มึงกลัวว่ามึงจะหมดตำแหน่งเหรอ ไอ้ …เอา…คิดเหรอ มึงเอาแค่มึงตัวรอด แล้วมึงไม่คิดเลยว่าคนสุพรรณบุรีเขาจะเป็นยังไง เขาไม่ได้ดูคาราบาว คิดว่ามีอำนาจเหรอ เป็นผู้ว่าฯเหรอ กูไม่ได้เป็นผู้ว่าฯ กูเป็นแค่ แอ๊ด คาราบาว กูไม่มีอำนาจใด ๆ ทั้งสิ้น แต่กูพูดความจริงแล้วกูนำเสนอความจริง กูทำเพื่อชาติบ้านเมืองแบบจริง ๆ กูไม่ได้เป็นข้าราชการแบบพวกมึง ที่คอยเลีย…เพื่อให้ได้ตำแหน่งและก็รักษาตำแหน่ง เลีย…ไปเรื่อยรักษาตำแหน่ง ไอ้เด็กเมื่อวานซืน เล่นไม่ได้แล้ว กูโมโห…”และมีคนเข้าไป“แอ๊ด คาราบาว”ถามเกิดอะไรขึ้น….“แอ๊ด คาราบาว”บอกว่าไม่ได้โกรธเกลียดใคร แค่สอนน้อง ว่าอย่าลุแก่อำนาจ บ้านเมืองมีขื่อมีแป เข้ามาบริหารบ้านเมืองอย่าใช้แต่อำนาจ อย่าลุแก่อำนาจ เกรงใจชาวบ้านบ้าง เขาเกิดเป็นประชาชนคนสุพรรณบุรี เกิดมาก่อนเอ็ง ไม่ใช่เอ็งเป็นผู้ว่าฯแล้วใหญ่…..ข้าเกิดมาก่อน อาบน้ำร้อนเมืองสุพรรณมาก่อน ส่งปิ่นโตให้ผู้ว่าฯสมัยก่อน จนพี่ชายไปเป็นผู้ว่าฯ น้องชายไปเป็นผู้ว่าฯ แล้วเด็กเมื่อวานซืนมาเป็นผู้ว่าฯ ไม่ให้ข้าเข้าเมืองสุพรรณคิดยังไง ขออำนวยพรให้มันจงเจริญ จะไม่ยึดติดกับเอ็งอีกต่อไปแล้ว จะสละปล่อยมันไปแล้ว ปลดปล่อยแล้วมีความสุขแล้ว นิพพานแล้ว

และเรื่องนี้ดูท่าจะยังไม่จบลงง่ายๆ เมื่อมีรายงานว่า สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดสุพรรณบุรีได้รายงานเหตุการณ์ดังกล่าวไปถึงกรมส่งเสริมวัฒนธรรมแล้ว (สวธ.) ในประเด็นเข้าข่ายศิลปินแห่งชาติที่มีความประพฤติเสื่อมเสียหรือไม่ ทั้งนี้ หากคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ (กวช.) เห็นว่าเป็นความประพฤติที่ทำให้เสื่อมเสียก็สามารถพิจารณาถอดถอนออกจากศิลปินแห่งชาติได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับทาง ผวจ.สุพรรณบุรี ว่าจะมีการแจ้งความดำเนินคดีต่อทาง“แอ๊ด คาราบาว”หรือไม่ 

เพราะหลักเกณฑ์ในกฎกระทรวง กำหนดสาขา คุณสมบัติ หลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือก และประโยชน์ตอบแทนของศิลปินแห่งชาติ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2563 ได้มีการระบุไว้ว่า เมื่อได้ประกาศยกย่องเชิดชูเกียรติผู้ใดเป็นศิลปินแห่งชาติแล้ว หากปรากฏว่าศิลปินแห่งชาติผู้นั้นมีความประพฤติเสื่อมเสีย หรือต้องคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก เว้นแต่ในความผิดอันได้กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ คณะกรรมการโดยมติด้วยคะแนนเสียงอย่างน้อยสองในสามของจำนวนกรรมการทั้งหมดเท่าที่มีอยู่อาจยกเลิกการยกย่องเชิดชูเกียรติศิลปินแห่งชาติได้

เรื่องประเด็นศิลปินแห่งชาติ มีเงื่อนไขของการเป็นศิลปินแห่งชาตินั้น เมื่อเป็นแล้ว มีหน้าที่ต้องรักษาไว้ตลอดชีพ ด้วยการไม่สร้างความเสื่อมเสียใดๆสิทธิประโยชน์ที่ได้รับ เป็นเงินเดือน 25,000 บาท หากเป็นศิลปินแก่ๆ ฐานะ ยากจน เงินเดือนขนาดนี้ ถือว่าสวยหรู แต่สำหรับศิลปินหมื่นล้านอย่าง”แอ๊ด คาราบาว”เงินแค่นี้ไม่มีความหมาย แต่ความหมายอันน่าหวงแหน อยู่ที่คำว่า “ศิลปินแห่งชาติ” นี่แหละ ถูกปลดเมื่อไร ถือเป็นความเสียหายอันประมาณเป็นตัวเงินไม่ได้... นายยืนยง โอภากุล หรือ “แอ๊ด คาราบาว”เหมือนทำปืนลั่นใส่ตัวเอง “ความดีต่างๆที่ทำไว้ แค่ปากไวไปนิดเดียว เลี้ยวลงเหวเลยน่ะ พี่น้อง..!!!