สิ่งที่เห็นตำตายังหาคำตอบไม่ได้“ โจร” ยังง้างปากให้พูด หรือ รับสารภาพได้ แต่ “ตำรวจ”แม้จะงัดง้างอย่างไร ยังงัย ก็ปิดปากเงียบ เมื่อตำรวจ “อมสเปโต” ไม่ยอมตีค่าโง่ และไม่ฆ่าเพื่อน และสืบสายเลือดมารุ่นต่อรุ่น ประเพณีต่อประเพณี สอนกันมาแต่อดีต ย่อมทำอะไรที่รักเพื่อนมากกว่าอุดมการณ์ เดินตามผู้ใหญ่ยศขึ้น “ผลงานเป็นรอง” ฮะฮะฮ่า..!!
จากกรณีบ่อนวิ่ง, ผับบาร์เปิดผิดกฎหมายหรือ ยาเสพติด เผาจากปากใกล้สน. ตำรวจท้องที่ “ถ่างตา ก็ไม่เจอ” … ยิ่งล่าสุด รถบรรทุกดิน ที่น้ำหนักเกิน วิ่งกันทั่วกรุงเทพ และปริมณฑล..”วิ่งในเวลาห้ามวิ่ง”..หาสิ่งแปลกปลอมไม่มี ท้องที่หมดความหมาย …เหตุเพราะเจอใบสั่งเบิกทางจากนายผู้มีอำนาจ?….ท้องที่ที่รถวิ่งผ่าน เลยไฟเขียวเลี้ยวไปส่งดินที่ไหนก็ได้ ดังนั้นการย้าย 5 เสือก็เป็นแค่ละคร ของสตช.ที่หาแพะมารับบาปส่งกลับไปดัดนิสัย แล้วย้ายกลับมาที่เดิม ตามระเบียบปฎิบัติแต่ปางก่อน เพราะกฎหมายมันอ่อนดี เจ้าหน้าที่ของรัฐจึงไม่กลัว ความชั่วของตำรวจก็ค่อยๆผุดมาให้เห็น..!!!
เมื่อเหตุการณ์ วัวหายแล้วล้อมคอก มันเกิดขึ้นบ่อย ทำให้ได้คิดว่าเป็นการล้อมคอกชั่วคราวของตำรวจ ยิ่งตำรวจมีเครื่องมือดีๆ กล้องวงจรปิด มีไว้ส่องโจร กลับมองไม่เห็น แม้การจราจรติด กรวยเกะกะ กีดกันทางรถ ทดลองผิดลองถูก งบประมาณใช้ผิดจุด แถมให้ไปกลับเป็นกิโล ผลาญน้ำมันเล่น แล้วตัวตนของตำรวจจราจรไปอยู่ไหนหมด? ยิ่งช่วงเร่งด่วน หาตำรวจจร.ไม่ได้สักคน ทั้งหมดนี้ ไม่ได้ใช้มาเป็นเครื่องวัดความผิด แต่ต้องพัฒนาระบบให้ทันต่อยุค ต่อสมัย อย่าดีแต่พูด “คาดคะเน”เดาไปต่างๆนานาไม่กล้าฟันธงว่าเกิดอะไร ทุกครั้งที่มีปัญหา เกิดการณ์รถบรรทุกดินเหนียว ตกลงไปในหลุมจากพื้นถนนบริเวณด้านหน้าซอยสุขุมวิท 64/1 ที่เกิดทรุดตัวลงกะทันหัน โดยเหตุดังกล่าวทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย นั้น มันบ่งบอกถึง ระบบการทำงาน ของ ตำรวจทางหลวงและพื้นที่ ชะล่าใจและคาดไม่ถึงว่าจะเกิดเหตุการณ์ฉีกหน้าตำรวจในนครบาล ส่วนนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้ลงพื้นที่พร้อม วิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และผู้อำนวยการเขตพระโขนง เพื่อตรวจสอบเหตุที่เกิดขึ้นนั้น ผอ.เขตฯไม่รู้มาก่อนหรึอ? งานนี้ต้องเจอสอบสวนด้วยน่ะครับผู้ว่าฯแล้วล่าสุด หวยล็อกก็บังเกิดเมื่อ…..
คุณอภิชาติ ไพรรุ่งเรือง ประธานสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทยบอกว่าสติกเกอร์รูปดาว สีเขียว อักษรภาษาอังกฤษตัว B ติดหน้ารถบรรทุกสิบล้อที่ขนดินเหนียวตกกลางถนนสุขุมวิทนั้น ยืนยันว่าเป็นสัญลักษณ์ของส่วยสติกเกอร์และรถบรรทุกน้ำหนักเกิน งานนี้ นาย วิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส. บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล พร้อมด้วย ปิยรัฐ จงเทพ สส. เขตพระโขนง-บางนา ได้ถามไปที่ตำรวจให้โชว์กึ๋นหน่อย ส่วน “บิ๊กโจ๊ก”พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ก็เร่งสำรวจตรวจสอบพวกเดียวกันนั้นแหละ ดีที่สุดเพราะเป็นตันเหตุของการเกิดส่วย ต้องจับใครประชาชนได้เห็นผลงานสักที อย่าลืม ผลงานส่อคุณค่า ปัญหาต้องเปิดเผย (อุ๊ย..!! จริงไหมครับ) และลองมาแอบฟังผบ.ตร.พูดเกี่ยวกับเรื่องส่วยสติ๊กเกอร์ดูบ้าง “บิ๊กต่อ”พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. บอกว่า ตำรวจหรือเจ้าหน้าที่รัฐเรียกรับผลประโยชน์ใดหรือไม่ โดยตนเองไม่จำเป็นต้องสั่งการ เพราะมีการแบ่งหน้าที่กันแล้ว แต่การกล่าวหาว่าสติกเกอร์ดังกล่าว เป็นส่วยสติกเกอร์ ที่สังคมเรียกกันนั้น ควรจะมีหลักฐาน แม้จะเป็นการตั้งข้อสังเกตของสังคม แต่ก็ทำให้องค์กรตำรวจหรือหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องเสื่อมเสียชื่อเสียง แต่อย่างไรก็ตามยืนยันว่า หากตรวจสอบพบ ส่วยสติกเกอร์เรียกรับผลประโยชน์ ของตำรวจจริง ตนเองก็จะดำเนินการตามขั้นตอนทั้งทางอาญาและทางวินัยอย่างเด็ดขาด พร้อมยืนยันตำรวจจะต้องไม่ยุ่งเกี่ยวกับสิ่งผิดกฎหมายใดๆ ทั้งสิ้น …รับทราบครับผม เอาเป็นว่าเข้าใจตรงกัน
ส่วนเรื่องของตราชั่งน้ำหนักที่เป็นเจ้าปัญหานั้น ผู้ที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะผู้ว่าชัชชาติฯ ควรตระหนัก ควรหามาตั้ง 4 มุมเมืองเลย ถนนจะได้ไม่พัง ยื่งตำรวจทางหลวง ควรสร้างความฝันให้ผบ.ตร.หน่อยจะได้สมบูรณ์ และ ผอ.เขตจะได้สบายใจ ไม่ต้องกังวลกับการทำความสะอาด ถ้าไม่ให้ปัญหาเหล่านี้เกิดขึ้นอึก ต้องปิดประตูรับส่วย จะได้ช่วยให้ตำรวจโปร่งใส ทุกท้องที่ควรตัดใจ เพราะอาหารที่เป็นพิษกินได้ไม่นานหรอก ดั่ง“นายอิ่ม ลูกน้องหิว”ระบบจึงเสีย เพลียใจแทนประชาชน และขอย้ำอีกครั้ง
“ โจร”ยังง้างปากให้พูดหรือรับสารภาพได้ แต่ “ตำรวจ”แม้จะงัดง้างอย่างไร ยังงัย ก็ปิดปากเงียบ เหยียบไว้น่ะ อย่าไปบอกนาย ฮะฮะฮ่า…อาเมน..!!!”
ทอมมี่ พสุวัชร์
