เรื่องมันน่าขำ ที่ไม่จดจำใส่สมอง เพราะมองอย่างไรๆ มันก็เป้นเพียง การแก้ผ้าเอาหน้ารอด ของผู้พิทักษ์สันติราษฎร์เจ้าของพื้นที่ ที่มีการปล่อยให้เปิดบ่อน รับส่วย จับแล้วรวยเป็นกอบเป็นกำ ทำกันอย่างไร? ตั๋วมันขึ้นตามกระแสที่แรงหรือไม่นั้น อยู่ที่คนจับมาจากคนของใคร ฮะฮะฮ่า..! และเมื่อ“ไก่เห็นตีนงู งูจูบปากไก่”สุดท้ายเจ้าของพื้นที่แพ้ทางโจร ยอมปิดตาตนเอง มองไม่เห็นสิ่งผิด คิดจะสะสมทรัพย์ตนเอง ด้วยหวังลาภ ยศ เป็นนิจ ดีชั่วไม่รับรู้ ตาบอดเป็นบางครั้ง มันน่าฉงนดี อย่างนี้ต้องตีก้นให้เข็ด ยัดเข้า สตช.อย่างถาวร ไปชงกาแฟให้นายจะดีกว่าน่ะ…!!! งานนี้ความหวังของประชาชน ให้ “บิ๊กหยาม”(พล.ต.ท.สยาม บุญสม
ผบช.น.)สร้างผลงานให้ประจักษ์… “ทอมมี่ พสุวัชร์”จะเชียร์จนขาดใจ.ประเทศไทยเจริญ ชาติมีความหวังคร๊าบ..เฮๆๆ
อย่าง “บ่อนอำนวย”ที่“เย้ย”สน.ดอนเมือง เปิดมา 5ปี ( ยาวนานมาก่อนหน้านั้นน่ะ)จับแล้ว20 ครั้ง เจ้าของบ่อนไม่เคยจับได้ หนีไปได้ตลอด เพราะมี “พรายกระชิบ”ในเครื่องแบบมาบอกเลยรอด ขนาดการเข้าจับ เมื่อกลางดึกวันที่ 27 ส.ค.2568 นายรณรงค์ ทิพย์ศิริ รองอธิบดีกรมการปกครอง ซึ่งนำกำลังชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง เข้าบุกทลายบ่อนพนันภายในซอยสรงประภา 1 เขตดอนเมือง กรุงเทพฯ ยังใช้กำลังกว่า 80 นายเข้าตรวจค้น พบนักเล่นพนันกว่า 200 คน และได้ควบคุมตัวส่ง สน.ดอนเมือง ดำเนินคดี พร้อมยึดของกลางเป็นชิปแทนเงินสดสำหรับเล่นการพนัน, เงินสดกว่า 5 ล้านบาท, บัญชีธนาคาร 17 เล่ม, อุปกรณ์เล่นการ ไฮโล ไพ่ ตู้ยิงปลา โต๊ะบาคาร่า และอุปกรณ์เล่นการพนันประเภทอื่นๆ อีกจำนวนมาก
สำหรับบ่อนแห่งนี้ไม่ธรรมดา ถูกดำเนินคดีมาแล้วหลายครั้ง ปราบอย่างไรก็ไม่เข็ด เพราะพื้นที่มีใจ“เคลียร์หน้าเสื่อได้”ผู้กำกับที่ย้ายเข้ามาอยู่ที่นี่ ก็ยอมทน หลับตาบ้าง “ป๋านวย”เลยได้ใจ เปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 10.00 น. จนถึงเวลา 06.00 น.ของอีกวัน ว้าวๆๆ หากคิดเป็นเงินหมุนเวียนรายเดือนแล้วสูงถึง 300-500 ล้านบาท โอ้พระเจ้ามันนี่ (Money)..? ก้างติดคออย่างไร ก็งัดได้ครับ..!!
ส่วนคำแก้ต่างของ พล.ต.ต.เจษฎา สวยสม ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 พร้อมด้วย ผกก.สน.ดอนเมือง ที่ขอเข้าร่วมตรวจค้นในครั้งนี้ และยืนยันว่าตำรวจไม่ได้ปล่อยปละละเลย โดยได้ขอหมายเข้าบุกตรวจค้นและดำเนินคดีกับนักเล่นพนันแล้วหลายครั้ง รวมถึงดำเนินคดีกับเจ้าของสถานที่และผู้จัดให้เล่นการพนัน แต่สถานที่แห่งนี้ยังกลับมาเปิดให้เล่นการพนันอย่างต่อเนื่อง อ้าว..! อย่างนี้ นายอำนวย ก็ไม่ให้เกียรติ ผู้การภาค2 และผกก.ดอนเมือง สิครับ..สมควรให้ “เปาปุ้นจิ้น”เอาไปตัดหัว อุ้ย..! ไม่ใช่ท่านผู้การน่ะ..“ป๋านวย”เจ้าของบ่อนต่างหาก ฮะฮะฮ่า..!! ส่วนเมื่อวันที่ 26 ส.ค. 68 .ใครน่ะ?บอกว่าตำรวจได้รวบรวมพยานหลักฐานขอศาลออกหมายค้น แต่ศาลยกคำร้อง ทำให้ตำรวจไม่มีอำนาจเข้าตรวจค้น จนกระทั่งชุดปฏิบัติการพิเศษของกรมการปกครองใช้อำนาจเข้าตรวจค้นในครั้งนี้ เลยซวยทั้ง 5 เสือ ประกอบไปด้วย พ.ต.อ.ภูวดล อุ่นโพธิ ผู้กำกับการ สน.ดอนเมือง, พ.ต.ท.คณิณ ค้ำคูณ รองผู้กำกับการป้องกันปราบปราม สน.ดอนเมือง, พ.ต.ท.อำนาจ ฉ่ำชะเอม รองผู้กำกับการสืบสวน สน.ดอนเมือง, พ.ต.ต.กิตติศักดิ์ จันทจิต สารวัตรป้องกันปราบปราม สน.ดอนเมือง, พ.ต.ท.ภาคิน ดอกไม้ สารวัตรสืบสวน สน.ดอนเมือง ต้องเข้าคุก อุ้ย,,,เข้ากรุ..!! แค่นี้ยังปราณีน่ะ..ไม่ส่งไปอยู่ตามชายแดน ไกลปืนเที่ยงก็ดีแล้ว ขนาดชาวบ้านยังรู้กันทั่วแต่ “ท่านผู้การ”ไม่รู้…มันฉงนใจยิ่งนัก..เพราะ “บ่อนป๋านวย”แห่งนี้ ยัง“ลักปิดลักเปิด”และถูกจับกุมมาแล้วมากกว่า 20 ครั้งในช่วง 5 ปี แต่ยังกลับมาเปิดใหม่ได้ซ้ำซาก ทำไมผู้การภาคฯ ถึงมองไม่เห็นเงาของ“บ่อนป๋านวย” ทำไม?หน่วยสืบสน.ดอนเมืองไม่กระซิบบอกผู้การฯหรือครับ… ระวังจะตายน้ำตื้น…จะบอกไห่น่ะ..ฮะฮะฮ่า.!!! และต้องเรียนบอกถึง “บิ๊กอ้วน”นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ควรออกนโยบายอย่างเคร่งคัด เพื่อตัดท่อน้ำเลี้ยงสีเทา ไม่ให้มีนิสัยเป็นอีแอบ(กิน) ถ้าพื้นที่ของใครมีบ่อนผุด สถานบันเทิงเกินเวลา เพราะตำรวจไม่มีเวลานอน
